| ปวดหลัง ปวดเอว
 อาการปวดหลัง ปวดเอว เกิดจากอะไร โดยทั่วไปแล้วมักมี สาเหตุ ได้ 3 อย่าง 1.ปวดจากกล้ามเนื้อหลังทำงานหนัก  และเกร็งมากไป มักเป็นในคนที่ก้มยกของหนัก หรือทำงานที่ต้องก้มทั้งวัน
 
 2.ปวดจากโรคไตอักเสบ  และอาจมีนิ่วที่ไต ลักษณะมักจะมีไข้ปวดเอว ปัสสาวะอาจมีแสบ ขัดขุ่น ถ้าเคาะเบา ๆ ที่เอวด้านที่ปวดจะเจ็บมากจนสะดุ้ง
 
 3.ปวดจากกระดูกสันหลัง  หรือหมอนรองกระดูกสันหลังที่เอวกดทับเส้นประสาท มักเป็นในคนเลยวัยกลางคนแล้ว  คนที่ต้องแบกของหนักเสมอ หรือผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุที่บริเวณหลัง  พวกนี้อาการปวดเอวมักจะร้าวไปที่สะโพก ต้นขา และปลายเท้า บางคนเท้าจะอ่อนแรง  หรือชาด้วย อาการอาจ ค่อยเป็นค่อยไป หรือบางคน ก้มยกของหนักแล้ว  หมอนรองกระดูกก็ปลิ้นออกมากดทับเส้นประสาท ทำให้ปวดกะทันหันก็มี
 จะทราบได้อย่างไรว่า เกิดจากอะไร สามารถลองทดสอบด้วยตัวเองได้  โดยทำเป็นขั้น ๆ ดังนี้ ขั้นแรก  ลองให้นอนหงายบนพื้นแข็ง ๆชันเข่าขึ้นบน ท่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อหลังคลายตัว  ถ้าอาการดีขึ้น ก็น่าจะเป็นจากการใช้หลังมากเกินไป
 ขั้นต่อไป  ลองใช้กำปั้นทุบเบา ๆ ที่บั้นเอวข้างที่ปวด ถ้าปวดจนสะดุ้ง ร่วมกับมีไข้  ปัสสาวะแสบ ขัด ขุ่น ก็มีโอกาสเป็นไตอักเสบ ให้รีบไปหาหมอทันที  ถ้าทุบแล้วบอกว่าสบาย อาการดีขึ้นก็น่าจะเป็นจากปวดกล้ามเนื้อ นอนพักก็หาย
 
 ขั้นสุดท้าย  ลองนอนหงาย เหยียดขา  2 ข้างออก  แล้วให้คนอื่นยกขาข้างที่ปวดเอวขึ้นมาตรง ๆ เร็ว ๆ  โดยที่ขาอีกข้างยังเหยียดราบอยู่ ถ้าเกิดอาการปวดเอวด้านที่ยกขาขึ้น และปวดร้าวแปลบไปที่ปลายเท้า  ก็น่าจะเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท ต้องรีบหาหมอเหมือนกัน
 อาการปวดหลังที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อหลังมากเกินไป  จะแก้ไขอย่างไร วิธีการแก้ไข ก็ไม่ยาก สามารถทำได้ดังนี้ 1.อย่าใช้กล้ามเนื้อหลังเกินความจำเป็น  เช่น จะยกของก็ให้นั่งลง แล้วค่อย ๆ ยกของยืนขึ้นมา แทนที่จะก้มลงไปยก  แต่ถ้าต้องก้มทำงานบ่อย ๆ ก็ต้องมีระยะพักบ้าง
 2.บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง  และกล้ามเนื้อหลังอย่างสม่ำเสมอ ด้วยท่าบริหารที่ง่าย ๆคือ ท่านนอนหงาย  ชันเข่าขึ้น แล้วยกคอขึ้นชิดอก และท่านอนคว่ำ เหยียดขาออก 2 ข้างขึ้นพร้อม ๆ กัน  ทำสัก 10 ครั้ง วันละ 2 รอบ นอกจากนี้การออกกำลังกายโดยการเดิน วิ่ง ถีบจักรยาน  ว่ายน้ำ ก็มีส่วนบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง และหลังด้วย
 
 3.ระวังอิริยาบถต่าง  ๆ  เช่น ท่านั่ง ท่านอน ท่ายืน  อย่าให้กระดูกสันหลังบิดเบี้ยว
 
 4.การประคบด้วยความร้อน  ซึ่งความร้อนจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายความเครียด และทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดี
 
 5.การใช้ยาแก้ปวด  เช่น พาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง หากอาการไม่ดีขึ้น ภายใน 3 –  4 วัน ควรรีบปรึกษาแพทย์
 ที่มา : เอกสารถามมาสิ  ... เราตอบได้ ขององค์การเภสัชกรรม
 
 
 |